วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เข้าร่วมอบรมโครงการ Smart Kids Code ปลูกต้นกล้า ทักษะ Coding

ในวันนี้กลุ่มงาน ICT นำโดยหัวหน้าสุระ น้อยสิม คุณครูจักรพงษ์ อามาตย์สมบัติ คุณครูอรทัย ไพรสว่าง และคุณครูชญาณิทิพย์ เขจรสิทธิ์ ได้รับมอบหมายจากท่านผู้อำนวยการสุรเชษฐ รูปต่ำ ให้เข้าอบรมโครงการ Smart Kids Code ปลูกต้นกล้า ทักษะ Coding ณ บริษัท TOT จ.ขอนแก่น และช่วงบ่ายมีการแข่งขันหุ่นยนต์แบบจับเวลา ผลปรากฎว่าทีมคณะครูจากโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม เข้ารอบชิงชนะเลิศ และได้รับรางวัลลำดับที่ 4 จาก 20 กว่าโรงเรียนค่ะ









วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562

รีวิวสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์:Science Day!!!

#“จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม”
"เปิดโลกกว้างของปูน้อยๆ" ของคุณครูอรทัย ไพรสว่าง
#ภารกิจจับปูใส่กระด้ง แล้วเอาไปเทกระจาดไว้ที่คณะวิทยาศาสตร์ 555+++
 เริ่มจากการนัดหมายก่อนวันเดินทาง คือวันศุกร์ ที่ 16 สิงหาคม 2562 นัดหมายปูน้อยของคุณครูพร้อมกันที่โรงเรียน เวลา 07.30 น. 
 เช้าวันอาทิตย์ ที่ 18 สิงหาคม 2562 เวลา 07.30 น. ปูน้อยของคุณครูมาครบ 35 คน (!!)น่ารักมากค่ะ(ด่านแรกผ่าน"ตรงต่อเวลา" มีความรับผิดชอบ ชื่นชมสุดๆ ขอให้ทุกคนรักษาไว้นะคะ "ตรงต่อเวลา" ) ครบแล้วก็ต้องทำอะไรค่ะ ถ่ายรูปสิค่ะ รอไร !!เอ้า!! จัดแถวค่ะ ๆ ถ่ายรูป 3-5 แอค แล้วให้ปูน้อยๆของครูขึ้นรถ
เวลา 08.00 น. มากันครบละ น้องม.1/12 : 35 คน ปูน้อยๆของครูน่ารักมาก และพี่ ม.4/12 :13 คน ครบแล้ว Let's go กันจ้า ระยะทางจาก โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม - คณะวิทยาศาสตร์ มข. ประมาณ 58 กิโล ไป-กลับ ก็ 116 กิโลกันเอง วันนี้คุณน้าโกมลสุดหล่อ พาคณะพวกเราไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยทุกเที่ยวของการเดินทาง ไป-กลับ กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะคะคุณน้า พวกเราเดินทางเส้นน้ำพอง-ถนนมิตรภาพค่ะ ระหว่างทางนึกว่าอยู่ในผับ เพราะเด็กๆเปิดเพลงกันตลอดทาง เพลงแดนซ์กันสุดๆ สนุกสนานตามประสาปูน้อยของครู
next>>อ่านใต้รูปภาพนะคะ ^^
"การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้"
ประสบการณ์ดี ๆ สร้างแรงบันดาลใจให้ถึงฝันนะคะ...สู้ๆ นะคะ
Location : คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
Photo by A'licez Nim (ขอบคุณนะคะสำหรับรูปภาพสวย ๆ ตลอดทั้งวัน ขอบคุณนะคะ)
ครบแย้ว ถ่ายรูปกันสิค่ะ รอไร...
ถ่ายรูปกับพี่ๆม.4/12 กันค่ะ
น้องมาครบ...แต่รอพี่ๆมายังไม่ครบ ไม่เป็นไร เราถ่ายรูปวนไปค่ะ
คุณน้าโกมลสุดหล่อ...กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ เพราะเป็นวันหยุดของคุณน้า แต่ต้องมาพาเราไปทัศนศึกษาวันวิทยาศาสตร์ กราบขอบพระคุณมากนะคะคุณน้า
พร้อมไม่พร้อมค่ะ...ดูจากสีหน้าแล้ว พร้อมมาก5555
ไปกันค่ะ...Let'go...
แค่เห็นพวกหนูยิ้ม ครูก็มีความสุขแล้วค่ะ
ตั้งใจกันมากค่ะ...ตั้งใจมอง เพราะพี่นักศึกษาสวย หรือว่าตั้งใจฟังกันค่ะ
ถ่ายกะลูกชายกันซะหน่อย เพราะที หยุดดูสิ่งที่อยู่ด้านหลังเรา คือหินต่างๆ รึป่าว (วิถีครูคอมก็จะไม่รู้เกี่ยวกับชีววิทยา เรียนมาแล้วก็ขออนุญาตคืนคุณครูผู้สอนนะคะ)
ขอขอบคุณคุณครูหยวนนะคะ ที่แวะมาเยี่ยมพวกเราค่ะ ขอขอบพระคุณค่ะ🙏
ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เล่นเกมสนุก หลากหลายมากค่ะ
ภาควิชาสุดท้ายของวันนี้ คือ โลก ดาราศาสตร์ ทีน้อยของคุณครูตอบถูกทุกข้อ และเพื่อนๆด้วยค่ะ
ขอบคุณพี่ๆ นักศึกษาอีกครั้งนะคะ/ครับ
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ แล้วเจอกันใหม่...














วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2019 มาแรง

อัปเดตเทรนด์! Influencer Marketing 2019 ที่นักการตลาดต้องจับตา
ในปี 2018 ถือเป็นปีทองของ Influencer Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใครไม่ใช้อาจพูดได้ว่าเชย! แต่สำหรับในปี 2019 กระแส Influencer Marketing จะยังมาแรงอยู่หรือไม่ หากใช้กลยุทธ์นี้ แบบไหนอาจจะดี และแบบไหนอาจจะดับ Motive Influence รวบรวมบทความวิเคราะห์ของสื่อใหญ่สำนักต่างๆ ของทั้งฝั่งไทยและต่างประเทศมาให้แล้วดังนี้


คนดังระดับ Celebrity มีช่องและคอนเทนต์เป็นของตัวเอง
ในขณะที่พื้นที่สื่อแบบดั้งเดิมหดตัวลง พื้นที่สื่อแบบออนไลน์กลับขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เหล่า Celebrity จำเป็นต้องหาพื้นที่ที่จะทำให้พวกเขาได้แสดงตัว อยู่ในกระแสตลอดเวลาและยังเป็นที่จดจำ พวกเขาจึงหันมาสร้างช่องส่วนตัวและคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์ของตัวเอง และแน่นอนในแบบที่แฟนๆ ของพวกเค้าชื่นชอบด้วย ทำให้คอนเทนต์ที่ออกมาดูสนุกสนาน เป็นธรรมชาติ เป็นที่น่าจดจำ นำไปสู่การมีอิทธิพลทางความคิดต่อแฟนคลับ และสร้างแรงดึงดูดให้แบรนด์ต่างๆ อยากเข้ามารุมเป็นสปอนเซอร์ได้สบาย ๆ
ผู้ฟังมองหาความจริงใจจาก Micro Influencer มากขึ้น
อีกหนึ่งเทรนด์ที่นักการตลาดและเอเยนซี่นิยมกันมากก็คือ การใช้ Micro Influencer ซึ่งความจริงมันก็น่าจะเวิร์กอยู่ ถ้าไม่มาโป๊ะไปซะก่อนตอนเห็น #Hashtag และแนวการเขียนที่เหมือนๆ กันไปซะหมด ทำให้ผู้ฟังไม่เชื่อถือ และเริ่มถามหาความจริงใจ ดังนั้นในปีหน้าจึงอาจได้เห็นการร่วมงานกันระหว่าง Influencer และแบรนด์มากขึ้น และที่น่าสนใจก็คือ การใส่ #SponsoredBy… หรือ #PartnerWith… ที่บอกกันตรงๆ เลยว่าเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับการจ้างจากแบรนด์ และอาจกลายมาเป็นกฎพื้นฐานข้อใหม่ที่คนโฆษณาต้องใส่ แต่ก็อาจได้ใจผู้ฟังมากขึ้นด้วยเช่นกัน


งานคุณภาพต้องมา! Follower ผีรีบหนีไปให้ไกล
จากนี้จะมีการคัดกรองคุณภาพของ Influencer มากขึ้น ด้วยการพัฒนาของระบบข้อมูลและซอฟต์แวร์ ทำให้แบรนด์และเอเยนซี่สามารถตรวจจับ Influencer ที่มี Follower ปลอมๆ ได้ง่ายกว่าเดิม ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย และได้ทั้ง Influencer ที่มีคุณภาพมาร่วมงานกัน

อีกทางเลือกที่น่าสนใจ แบรนด์จะหันมาใช้ IG Story Ads มากขึ้น
ผู้ใช้ 400 ล้านคนทั่วโลก (และ 13.6 ล้านคนในไทย) เข้ามาดู Instagram Story ทุกวัน แถมโฆษณาบน Facebook ก็มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจถ้า Instagram Story Ads จะกลายเป็นเทรนด์ใหญ่ที่แบรนด์ชั้นนำหันมาเลือกใช้กันมากขึ้นในปี 2019 ที่น่าสนใจก็คือ แบรนด์ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดิมได้ และเป็นการโฆษณาที่ให้ผลลัพธ์น่าพอใจสุดๆ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระแสที่อาจเกิดขึ้นในปี 2019 แต่ในระหว่างนั้นก็อย่าลืมว่าโลกของเราช่างหมุนไปไว อาจมีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นแบบปุบปับฉับพลันได้ในแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว จึงเป็นหน้าที่ของนักการตลาดอย่างเราที่ต้องหมั่นเข้ามาอัปเดตข่าวสารที่น่าสนใจให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา
  
ข้อมูลอ้างอิง :
https://thestandard.co/digital-marketing-trends-2019/
https://www.twfdigital.com/blog/2018/12/thailand-digital-marketing-trends-2019/
https://www.socialmediatoday.com/news/5-of-the-biggest-influencer-marketing-trends-for-2019-infographic/541911/
https://skedsocial.com/blog/top-10-instagram-trends-2019/
https://socialmediaexplorer.com/social-media-marketing/8-instagram-trends-to-watch-in-2019/
https://thumbsup.in.th/2018/02/tza-2018-social-media-data-is-sexy/



วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เผย 10 เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2017-2020


เผย 10 แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นภายใน 3-4 ปีข้างหน้า โดยประเด็นหลักอยู่ที่การเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิตอลทั้งในระดับองค์กร และระดับประเทศ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจให้เข้าสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ตามที่รัฐบาลวางไว้ ซึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่จะมาช่วย คือ การมาของคลาวด์ บิ๊กดาต้า โซเชียลเน็ตเวิร์ก และอุปกรณ์พกพา รวมถึงอุปกรณ์ IoT

นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัย สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ ดีไวซ์ ประจำไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่ไอดีซี มองว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ เรื่องของ Digital Transformation หรือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ซึ่งจะสอดคล้องกับมุมมองของรัฐบาลต่อการเข้าสู่ยุค ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะเกิดขึ้น

“นับจากนี้เศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ทำให้แนวโน้มการลงทุนทางด้านไอทีนับจากนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ไทยมีการใช้เงินลงทุนไอทีไปกว่า 4 แสนล้านบาท และภายในปี 2020 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาท ซึ่งสัดส่วนหลักยังคงอยู่ในกลุ่มของดีไวซ์เป็นหลัก รองลงมา คือ ไอทีเซอร์วิสอย่างคลาวด์”

แนวโน้มที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คือ ไทยกำลังอยู่ในยุคของแพลตฟอร์มที่ 3 ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มที่เป็นเสาหลัก คือ คลาวด์ บิ๊กดาต้า โซเชียลมีเดีย และโมบาย ทำให้จากนี้จะเห็นบริการที่อยู่บนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเหล่านี้ออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น

สำหรับ 10 เทรนด์ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2020 ประกอบไปด้วย 1.รุ่งอรุณแห่งเศรษฐกิจในยุคดิจิตอลทรานฟอร์เมชั่น (Dawn of the DX Economy) ที่ทางไอดีซี คาดการณ์ว่า ภายในปี 2020 จำนวน 30% ของ 500 ผู้ประกอบการรายใหญ่ในประเทศไทย จะให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใช้งานที่มีดิจิตอลเป็นส่วนประกอบ

2.รายได้เชิงดิจิตอล (Digital Revenue) โดยภายในปี 2019 จำนวน 25% ของโครงการทางด้านไอที จะสร้างบริการ และรายได้จากดิจิตอล ด้วยการเปลี่ยนแปลงข้อมูล (Data) ให้กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากขึ้นในอนาคต ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องมีการลงทุนในการบริหารจัดการข้อมูลมากขึ้น

3.การซัปพอร์ตโดยใช้ดิจิตอล (Digital Support) ภายในปี 2018 จำนวน 60% ของการบริการลูกค้าหลังการขายจะเกิดขึ้นในรูปแบบดิจิตอล เนื่องมาจากปัจจุบัน องค์กรส่วนใหญ่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย และออนไลน์ ในการติตต่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอยู่แล้ว จึงถือเป็นการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า

4.อินเตอร์เฟสแบบ 360 องศาจะได้รับความสนใจมากขึ้น (Immersive Interfaces Gaining Traction) หรือการนำเทคโนโลยี AR/VR จะถูกนำมาใช้งานใน 30% ของบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ และบริการให้แก่ลูกค้าโดยตรง เนื่องจากรูปแบบการติดต่อสื่อสารในปัจจุบันจะเริ่มได้รับความนิยมลดลง เพราะไม่สร้างให้เกิดความน่าสนใจในตัวสินค้า

5.การเติบโตของอุตสาหกรรม IoT (Industry Growth) ในปี 2017 การมาของรถยนต์อัจฉริยะ ประกันภัยเทเลเมติกส์ เทคโนโลยีสุขภาพส่วนบุคคล และอาคารอัจฉริยะ จะเป็น 4 ส่วนที่มีการลงุทน IoT ถึง 7 พันล้านบาท โดยสัดส่วนใหญ่สุดจะมาจากรถยนตร์อัจฉริยะที่มีการแข่งขันสูงในอุตสาหกรรม

6.รถยนต์อัจฉริยะ (Connected Vehicle) ไอดีซี คาดการณ์ว่า ในปี 2019 รถยนต์ที่จำหน่ายกว่า 25% จะมาพร้อมกับความอัจฉริยะในการติดต่อสื่อสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการรายงานสภาพรถยนต์ให้ผู้ขับขี่ทราบ และการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้เพื่อส่งต่อให้แก่ค่ายรถยนต์ในการนำไปพัฒนาต่อยอดในอนาคต

7.การปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย (Patient Engagement) ในปี 2017 โรงพยาบาลจะมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย เพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการในการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับคนไข้เพิ่มเติมด้วย

8.กลยุทธ์มัลติคลาวด์ (Multi-cloud) ไอดีซี มองว่า ในปี 2020 กว่า 55% ของฝ่ายไอทีในองค์กรจะมีการนำระบบคลาวด์จากหลายผู้ให้บริการมาใช้งานร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีการเรียนรู้การใช้งานคลาวด์มาแล้ว และมีข้อมูลที่ทำให้สามารถตัดสินใจเลือกใช้งานได้

9.การยกเครื่องเพย์ทีวี (Pay TV Overhaul) จากรูปแบบการให้บริการเพย์ทีวีในปัจจุบันที่ตลาดค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากมีช่องทางในการรับชมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องมีการยกเครื่องการให้บริการเพย์ทีวี มาให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2018 จะเห็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคอนเทนต์เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น

10.คอกนิทีฟไซเบอร์ ซิเคียวริตี (Cognitive Cybersecurity) ไอดีซี เชื่อว่า ในปี 2019 กว่า 30% ของระบบการป้องกันภัยคุกคามขององค์กรในประเทศไทยจะมีการนำระบบคอกนิทีฟ หรือระบบที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงมาช่วยในการตรวจจับภัยคุกคามยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะภัยคุกคามจะมีความหลากหลายมากขึ้นเกินกว่าที่มนุษย์จะป้องกันได้

Company Relate Link :
IDC

เข้าร่วมอบรมโครงการ Smart Kids Code ปลูกต้นกล้า ทักษะ Coding

ในวันนี้กลุ่มงาน ICT นำโดยหัวหน้าสุระ น้อยสิม คุณครูจักรพงษ์ อามาตย์สมบัติ คุณครูอรทัย ไพรสว่าง และคุณครูชญาณิทิพย์ เขจรสิทธิ์ ได้รับมอบหมาย...